Before We Go (2014) | อิทธิพลจาก Before Sunrise สู่งานแจ้งเกิดคริส อีแวนส์ในฐานะผู้กำกับ
ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบหนังโรแมนติกแล้วล่ะก็ไม่ควรพลาด Before We Go ที่ได้รับอิทธิพลโดยตรงของพล็อตเรื่องมาจากหนังเวียนนาโรแมนซ์เรื่อง Before Sunrise นำมาทำเป็นหนังโรแมนติกของผู้ใหญ่ยามค่ำคืนระหว่างชายหญิงที่ได้รู้จักกันโดยบังเอิญ ซึ่งทั้งคู่ต่างมีปัญหาส่วนตัวที่ได้อีกฝ่ายมาคอยเตือนสติให้ยอมรับความจริง
'นิก' (Chris Evans) กำลังจะมีออดิชั่นเข้าวงดนตรีแต่เขากลับถอดใจเพียงเพราะเห็นแฟนเก่าที่ไม่ได้เจอมา 6 ปีมีคนใหม่ ในคืนนั้นเขาได้ช่วยเหลือหาทางกลับบ้านให้ 'บรู๊ค' (Alice Eve) ซึ่งกระเป๋าถูกขโมย มือถือเสียติดต่อใครไม่ได้ แถมยังต้องรีบกลับบ้านต่างเมืองก่อนที่สามีจะถึงบ้าน ในคืนนั้นที่ทั้งคู่ได้ใช้เวลาร่วมกันต่างได้เตือนสติซึ่งกันและกัน
ความชอบอย่างแรกคือถึงแม้จะได้อิทธิพลจาก Before Sunrise มาแต่หนังเลือกจะเดินเรื่องด้วยความเป็นผู้ใหญ่ ด้วยสถานการณ์ของตัวละครกำลังโดดเดี่ยวในเมืองใหญ่มันจึงไม่ได้เอื้อให้มาทำตัวโรแมนติกสวีทหวานจ๋าเหมือนวัยรุ่นเที่ยวยุโรปแบบ Before Sunrise ถึงอย่างนั้นความดีงามก็คือหนังยังสามารถหยอดมุมโรแมนติกลงไปได้อย่างเป็นธรรมชาติ พร้อม ๆ กับเดินเรื่องอย่างมีวุฒิภาวะที่แสดงให้เห็นถึงความคิดความอ่านที่เป็นผู้ใหญ่ของทั้งสองตัวละคร
ชอบลำดับการเล่าเรื่องที่แสดงให้เห็นว่าทั้งสองคนค่อย ๆ เปิดเผยความอึดอัดในใจให้คนแปลกหน้าฟัง จากที่เราคิดว่าบรู๊คเป็นฝ่ายรับความช่วยเหลือจากนิก จนเมื่อหนังเดินหน้าไปเรื่อย ๆ กลับกลายเป็นเธอที่ช่วยเหลือเตือนสติเขา ท้ายที่สุดมันจึงไม่ต่างอะไรจากการพึ่งพาซึ่งกันและกันให้รอดพ้นจากการหลงทางอันเกิดจากความผิดพลาดในยามราตรีร้าย ๆ (ที่กลายเป็นดี)
อันที่จริงแค่การเริ่มเรื่องด้วยคู่หนุ่มสาวผจญภัยยามค่ำคืนด้วยกันมันก็ออกจะเป็นความโรแมนติกที่หลายคนคาดหวังว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเอง แต่มันยังเพิ่มเสน่ห์อันเกิดจากโมเม้นต์โรแมนติกเรียกรอยยิ้มจากคนดูหลายต่อหลายฉาก ที่เด่น ๆ โดนใจก็เช่นฉากคุยโทรศัพท์ถึงตัวเองในอดีต และทำอะไรแผลง ๆ ด้วยการสวมรอยโชว์ร้องเล่นดนตรีบนเวที
บางทีในยามที่เราท้อแท้ก็ขอเพียงแค่ใครสักคนมาพูดคุยปลดปล่อยแลกเปลี่ยนความรู้สึกเพื่อจะได้เดินหน้าต่อเท่านั้นเอง และนี่จึงเป็นเหตุผลให้ Before We Go ได้ใจผมไปครองเพราะมันถ่ายทอดความสัมพันธ์ในหนึ่งคืนได้เป็นผู้ใหญ่ในโลกความเป็นจริง
Director: Chris Evans
story: Ronald Bass, Jen Smolka
Genre: romance, drama, comedy
8/10